ใช้ใบกำกับภาษีไม่สมบูรณ์ = หัก VAT ไม่ได้!
✴️ บทนำ
หลายกิจการมักประสบปัญหา “หักภาษีซื้อไม่ผ่าน” เมื่อนำเอกสารมาใช้ที่ไม่มีคำว่า “ภาษีมูลค่าเพิ่ม” อย่างชัดเจน หรือไม่มี VAT แยกจากราคาสินค้า/บริการ ซึ่งถือว่าเอกสารนั้นไม่ใช่ “ใบกำกับภาษีที่สมบูรณ์” ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร และจะไม่สามารถใช้ในการหักภาษีซื้อได้
⚖️ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
-
มาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร
ใบกำกับภาษีต้องมีคำว่า “ใบกำกับภาษี” อย่างชัดเจน และต้องมี “จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม” แยกต่างหากจากราคาสินค้าหรือค่าบริการ -
คำวินิจฉัยกรมสรรพากรที่ กค 0811/พ./2532 ลว. 28 ก.ค. 2560
การขาดองค์ประกอบที่กำหนดไว้ในมาตรา 86/4 เช่น ไม่มีคำว่า “ใบกำกับภาษี” หรือไม่ระบุ VAT แยก → จะไม่สามารถหักภาษีซื้อได้ -
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2549
สั่งให้ผู้ประกอบการต้องคืนภาษีที่เคยหักไว้จากเอกสารที่ไม่สมบูรณ์ และชำระภาษีพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
🧑⚖️ ตัวอย่างสถานการณ์
บริษัท B ได้รับเอกสารเรียกเก็บค่าบริการ ที่มีเพียงคำว่า “INVOICE” และยอดรวม 10,700 บาท (ไม่มีคำว่า VAT / ไม่มี VAT แยก)
บริษัท B นำเอกสารนี้มาหักภาษีซื้อในแบบ ภ.พ.30
กรมสรรพากรตรวจพบว่าเอกสารไม่ใช่ใบกำกับภาษีที่สมบูรณ์ → ไม่ให้หัก
ถูกประเมิน VAT ย้อนหลัง + ดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน + ค่าปรับ 2,000 บาท
🛡️ วิธีป้องกัน
-
ตรวจสอบทุกใบกำกับภาษีว่ามีคำว่า “ใบกำกับภาษี” อย่างชัดเจน
-
ต้องระบุ VAT แยกชัดเจนจากราคาสินค้าหรือบริการ
-
ต้องระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขายและผู้ซื้อ
-
วันที่เอกสารต้องตรงกับการซื้อขายจริง
-
ขอใบกำกับฉบับที่ถูกต้องใหม่ หากพบข้อผิดพลาด
-
ควรมีระบบตรวจสอบใบกำกับภาษีก่อนนำไปหักภาษีซื้อใน ภ.พ.30
📌 สรุป
ใบกำกับภาษี = ต้องสมบูรณ์ทุกองค์ประกอบ
หากไม่มีคำว่า “ภาษีมูลค่าเพิ่ม” หรือไม่แสดง VAT แยกชัดเจน → หักภาษีซื้อไม่ได้
ความเสียหายไม่ใช่แค่ภาษีซื้อถูกตัดทิ้ง แต่รวมถึงดอกเบี้ยและเบี้ยปรับจากกรมสรรพากร
A&V Account Office Co., Ltd.
เราให้บริการตรวจสอบเอกสารภาษี ตรวจความครบถ้วนของใบกำกับภาษี พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการหักภาษีซื้อที่ถูกต้องตามกฎหมาย