รายงานกำไรสุทธิสูงเกินไป อาจเสี่ยงถูกสรรพากรเพ่งเล็ง!
✴️ บทนำ
หลายบริษัทมุ่งเน้นการแสดงผลกำไรสุทธิเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือทางธุรกิจหรือเพื่อการกู้เงิน แต่รู้หรือไม่ว่า การรายงานกำไรสุทธิสูงเกินไป ก็อาจทำให้กรมสรรพากร สงสัยว่าคุณ “มีรายจ่ายไม่ครบถ้วน” และเรียกตรวจสอบย้อนหลังได้
⚖️ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง:
-
ประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (13):
รายจ่ายอันมีลักษณะส่วนตัว หรือไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ จะถือเป็น “รายจ่ายต้องห้าม”
-
คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.4/2528:
หากพบนิติบุคคลที่มีอัตรากำไรสุทธิสูงผิดปกติ อาจใช้เป็นเหตุเริ่มต้นในการพิจารณาความถูกต้องของรายจ่าย
🧑⚖️ ตัวอย่างสถานการณ์:
บริษัท A รายงานยอดขาย 10 ล้านบาท
แต่แสดงรายจ่ายเพียง 2 ล้านบาท → กำไรสุทธิ = 8 ล้านบาท (คิดเป็น 80%)
สรรพากรตรวจพบว่า บริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร ค่าขนส่ง ค่าที่ปรึกษา หรือแม้แต่ค่าไฟฟ้า → ถือว่าผิดปกติ
ผลลัพธ์:
-
ถูกเรียกตรวจสอบ
-
หากพบว่าไม่ลงรายจ่ายที่มีอยู่จริง = เสียภาษีเพิ่ม + ดอกเบี้ย + เบี้ยปรับ
-
เสียเครดิตทางธุรกิจเมื่อลูกค้า/ธนาคารทราบว่ารายงานกำไรเกินจริง
📌 ป้องกันอย่างไร?
-
ลงรายจ่ายให้ครบถ้วนและตรงความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟ ค่าขนส่ง ค่าโทรศัพท์ หรือค่าทนายความ
-
แยกประเภทรายจ่ายส่วนตัวออกจากรายจ่ายบริษัทอย่างชัดเจน
-
หมั่นตรวจสอบอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ว่าอยู่ในระดับเหมาะสมกับธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน
-
หากไม่มั่นใจควรปรึกษาผู้สอบบัญชี/ที่ปรึกษาภาษีเพื่อปรับงบให้เหมาะสม
📍 สรุป:
รายงานกำไรสูงเกินไป ไม่ได้แปลว่าเก่งเสมอไป
หากรายจ่ายไม่สัมพันธ์กับกิจการจริง → สรรพากรมีสิทธิเพ่งเล็ง
กำไรสูงผิดธรรมชาติ = เสี่ยงตรวจสอบภาษี และต้องเสียค่าปรับย้อนหลัง
A&V Account Office Co., Ltd.
พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการวางแผนภาษีนิติบุคคลอย่างรัดกุม ปลอดภัย และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ✅