ชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มต่างประเทศ = ต้องยื่นภาษีด้วย (ภ.ง.ด.54)
✴️ บทนำ
หลายกิจการในไทยใช้บริการจากต่างประเทศผ่านระบบอัตโนมัติ เช่น
-
ลงโฆษณาผ่าน Facebook/Google
-
สมัครบริการซอฟต์แวร์แบบรายเดือน
-
จ่ายค่าระบบคลาวด์ เช่น AWS, Zoom, Canva ฯลฯ
แม้ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือระบบตัดอัตโนมัติ
แต่ตามกฎหมายไทย กิจการต้องยื่นภาษีแทนผู้ให้บริการต่างประเทศผ่านแบบ ภ.ง.ด.54 เสมอ
⚖️ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง:
-
ประมวลรัษฎากร มาตรา 70:
หากกิจการในไทยจ่ายเงินให้ “ผู้ไม่มีสำนักงานในประเทศไทย” ถือว่าต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
โดยให้ผู้จ่ายเงินยื่นภาษีแทนผ่านแบบ ภ.ง.ด.54 -
อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ขึ้นอยู่กับประเภท):
-
ค่าบริการทั่วไป = 5%
-
ค่าโฆษณา/ลิขสิทธิ์/ค่าปรึกษา = 15%
-
ค่าใช้ซอฟต์แวร์ = พิจารณาว่าเป็นลิขสิทธิ์หรือบริการ
-
🧑⚖️ คำวินิจฉัยที่เกี่ยวข้อง:
คำวินิจฉัย กค 0706/1854 ลงวันที่ 20 ก.ค. 2565
บริษัทในไทยจ่ายค่าโฆษณาให้บริษัท Facebook Singapore แม้ผ่านระบบอัตโนมัติ ก็ต้องนำส่งภาษีแทนตามแบบ ภ.ง.ด.54
📌 ตัวอย่างประกอบ:
สถานการณ์:
บริษัท A จ่ายค่าโฆษณาผ่าน Facebook เดือนละ 50,000 บาท ตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติทุกเดือน
สิ่งที่ต้องทำ:
-
หักภาษี 15% จากยอด = 7,500 บาท
-
ยื่นแบบภาษี ภ.ง.ด.54 ทุกเดือน พร้อมนำส่งภาษี
-
ถ้าไม่ยื่น → บริษัท A ต้องรับภาระภาษีทั้งหมดแทน พร้อมเบี้ยปรับ 100% และเงินเพิ่ม
🛡 วิธีป้องกัน:
-
ตรวจสอบทุกธุรกรรมออนไลน์ที่จ่ายให้ต่างประเทศ
-
วิเคราะห์ประเภทค่าบริการว่าต้องหักภาษีหรือไม่
-
หากไม่มีผู้รับเงินอยู่ในไทย = ต้องยื่นภาษีแทนแน่นอน
-
จัดทำแบบฟอร์มหักภาษีและยื่นภาษีให้ครบถ้วนทุกเดือน
-
ปรึกษาสำนักงานบัญชีเพื่อวิเคราะห์ภาระภาษีล่วงหน้า
📍 สรุป:
ชำระเงินให้แพลตฟอร์มต่างประเทศ ≠ เรื่องจบ
คุณอาจต้องรับบท “ตัวแทนภาษี” ยื่นแทนเขาโดยปริยาย
ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งป้องกันได้ และไม่กลายเป็นภาระภาษีย้อนหลัง
A&V Account Office Co., Ltd.
พร้อมช่วยคุณวางระบบภาษีสำหรับการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะใช้แพลตฟอร์มจากที่ใดในโลก