บริการจดทะเบียน
ขั้นตอนการจัดตั้งบริษัทจำกัด
จองชื่อ
จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ
(ผู้เริ่มก่อการขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น)
ส่งหนังสือนัดประชุมตั้งบริษัท
จัดตั้งบริษัท
ขอบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรบริษัท
จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
หลักฐานและรายละเอียดประกอบการจัดตั้งบริษัทจำกัด
- ชื่อบริษัท
- เงินทุนจดทะเบียนและผู้ถือหุ้นจะถือหุ้นคนละเท่าไรของเงินทุน
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ตั้งสำนักงานบริษัท 1 ฉบับ
- วัตถุประสงค์ของการประกอบกิจการ
- กรรมการบริษัทจะมีกี่คน ใครบ้าง และมีอำนาจลงนามร่วมกันอย่างไร
- ตราสำคัญของบริษัท
- สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน (หน้า – หลัง) ของผู้เริ่มก่อการทั้ง 3 คนคนละ 1 ชุด และลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง แต่ถ้าเป็นกรรมการผู้มีอำนาจจะต้องใช้ 2 ชุด
- การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องใช้เอกสารทะเบียนบ้าน- บัตรประชาชนฉบับจริงของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามแสดงต่อเจ้าหน้าที่พร้อมสำเนาที่ตั้งสถานประกอบการต้องมีทะเบียนบ้านฉบับจริงพร้อมสำเนา และหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอาคาร รูปถ่ายสถานประกอบการจริงและแผนที่ตั้ง
ค่าธรรมเนียมการจัดตั้งบริษัทจำกัด
-
- ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับราชการ (ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท) 6,560 บาท
- ค่าบริการในการจัดตั้งบริษัท 3,000 บาท
ฟรี ขึ้นทะบียนประกันสังคมสำหรับนายจ้างและสำหรับลูกจ้าง มูลค่า 2,000 บาท (กรณีใช้บริการทำบัญชีกับสำนักงานบัญชี A&V )
ฟรี ขึ้นทะบียนยื่นงบการเงิน E-Filing และขึ้นทะเบียนยื่นภาษี Online มูลค่า 4,000 บาท (กรณีใช้บริการทำบัญชีกับสำนักงานบัญชี A&V )
ค่าบริการข้างต้นไม่รวมค่าทำตรายาง (ราคาขึ้นอยู่กับประเภทของตรายางที่ท่านต้องการ)
(เพิ่มเติม ถ้าคาดว่ารายรับถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี) ค่าบริการจด VAT 3,000
ค่าบริการของเราในการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ค่าบริการในการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดคือ 3,000.- บาท (ไม่รวมค่าธรรมเนียมแล้ว)
การจดเลิกบริษัทหรือการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีบริษัท/หลักฐานและค่าธรรมเนียม
การจดเลิกบริษัทหรือการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีบริษัท
ในกรณีที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติพิเศษให้เลิกบริษัท มีขั้นตอนดำเนินการรวม 8 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
- จัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น 2 ครั้ง เพื่อลงมติพิเศษให้เลิกบริษัท ดังนี้
- การประชุมครั้งแรก
- มีวาระพิจารณาเรื่องเลิกบริษัท
- ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะต้องลงมติให้เลิกบริษัทด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4
- การประชุมครั้งที่สอง
- มีวาระพิจารณา 3 วาระ คือ ยืนยันมติให้เลิกบริษัทของที่ประชุมครั้งแรก แต่งตั้งผู้ชำระบัญชี และกำหนดค่าตอบแทนและแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทน
- ที่ประชุมจะต้องลงมติยืนยันให้เลิกบริษัทไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ส่วนมติแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี และผู้สอบบัญชีรวมทั้งกำหนดค่าตอบแทนใช้มติธรรมโดยเสียงข้างมาก
- การประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่สองจะต้องห่างจากการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งแรกไม่น้อยกว่า 14 วัน และไม่เกินกว่า 6 สัปดาห์
- การประชุมครั้งแรก
- ผู้ชำระบัญชีต้องลงประกาศเลิกบริษัทในหนังสือพิมพ์ท้องที่ 2 วัน ต้องแจ้งการเลิกบริษัทให้เจ้าหนี้ทราบโดยส่งหนังสือลงทะเบียนไปรษณีย์และต้องจดทะเบียนเลิกบริษัท ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทภายใน 14 วันนับแต่วันเลิกบริษัท
- เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนเลิกบริษัท
- คำขอจดทะเบียน (แบบ ลช.1)
- รายการจดทะเบียน (แบบ ลช 2)
- คำสั่งศาลให้เลิกบริษัท (กรณีศาลสั่งให้เลิก)
- สำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ครั้งซึ่งลงมติให้เลิกบริษัท โดยกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อรับรองความถูกต้อง –
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ชำระบัญชีที่ลงชื่อในคำขอจดทะเบียน
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรทนายความหรือหลักฐานการเป็นสมาชิกเนติบัณฑิตยสภาของผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
- เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนเลิกบริษัท
-
จัดทำงบการเงิน ณ วันเลิกบริษัทและส่งให้ผู้ตรวจสอบบัญชีตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
-
เมื่อผู้ตรวจสอบบัญชีตรวจสอบงบการเงินแล้วเห็นว่าถูกต้องให้ผู้ชำระบัญชีเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติงบการเงิน และพิจารณากว่าจะให้กรรมการบริษัทเป็นผู้ชำระบัญชีต่อไปหรือจะแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีขึ้นใหม่
-
ผู้ชำระบัญชีต้องดำเนินการชำระบัญชีโดยรวบรวมทรัพย์สินเรียกให้ผู้ถือหุ้นชำระเงินค่าหุ้น ขายทรัพย์สิน เรียกลูกหนี้ให้ชำระหนี้ ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ ชดใช้เงินทดรองและค่าใช้จ่ายที่กรรมการบริษัทได้ออกไป ในการดำเนินกิจการค้าแทนบริษัท หากมีทรัพย์สินเหลือให้คืนทุนผู้ถือหุ้น (กรณีการชำระบัญชีปรากฏว่าทรัพย์สินไม่พอชำระหนี้สินให้ผู้ชำระบัญชีร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งให้บริษัทจำกัดล้มละลาย)
-
ในกรณีที่ชำระบัญชีไม่แล้วเสร็จ ผู้ชำระบัญชีต้องจัดทำรายงานการชำระบัญชี (แบบ ลช 3) ยื่นต่อนายทะเบียนทุกระยะ 3 เดือน และในการกรณีชำระบัญชีไม่เสร็จเกินกว่า 1 ปี ผู้ชำระบัญชีต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อครบปีทุกปี เพื่อรายงานความเป็นไปของการชำระบัญชี
-
เมื่อชำระบัญชีดำเนินการชำระบัญชีเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ชำระบัญชีต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อให้พิจารณาอนุมัติรายงานผลการชำระบัญชี
-
เมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติแล้ว ผู้ชำระบัญชีต้องจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายใน 14 วัน นับแต่วันประชุมอนุมัติเสร็จการชำระบัญชี
เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนเลิกบริษัท
-
- คำขอจดทะเบียน (แบบ ลช.1)
- รายการจดทะเบียน (แบบ ลช 2)
- คำสั่งศาลให้เลิกบริษัท (กรณีศาลสั่งให้เลิก)
- สำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ครั้งซึ่งลงมติให้เลิกบริษัท โดยกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อรับรองความถูกต้อง
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ชำระบัญชีที่ลงชื่อในคำขอจดทะเบียน
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรทนายความหรือหลักฐานการเป็นสมาชิกเนติบัณฑิตยสภาของผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี
-
- คำขอจดทะเบียน (แบบ ลช 1)
- รายการจดทะเบียน (แบบ ลช 2)
- รายงานการชำระบัญชี (แบบ ลช 3) พร้อมเอกสารประกอบ
- รายละเอียดบัญชีและสรรพเอกสาร (แบบ ลช 6)
- สำเนาบัตรประจำตัวของผุ้ชำระบัญชีที่ลงชื่อในคำขอจดทะเบียน
- สำเนาบัตรทนายความหรือหลักฐานการเป็นสมาชิก
- แบบรับรองการตรวจสอบบัญชีของกรมสรรพากร
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
ค่าธรรมเนียมในการจดเลิกหรือจดทะเบียนเลิกบริษัทและชำระบัญชี
การจดเลิกข้างต้นทั้งหมด ค่าบริการ 15,000.- บาทไม่รวมค่าทำและค่าสอบบัญชี